4 การละเล่นเด็กไทยโบราณที่สนุกและสร้างสรรค์

การละเล่นเด็กไทยโบราณ

ด้วยเรื่องของความสนุกสนานของคนเรานั้น สามารถสร้างได้หลากหลายสไตล์ตามความชอบหรือจะร่วมกันทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อความบันเทิง ความสนุก ก็ได้เช่นกันครับ ซึ่ง “การละเล่นของเด็กๆ ” ต่างๆ ก็มีอะไรที่น่าสนใจมากมายเลย วันนี้เราเลยอยากจะมาพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “4 การละเล่นเด็กไทยโบราณที่สนุกและสร้างสรรค์” กันสักหน่อยครับ จะมีการละเล่นอะไรบ้างนั้น…เราไปชมกันดีกว่าครับ

การเล่นของเด็กๆ ส่งผลดีอย่างไรบ้าง?

  • เสริมสร้างพัฒนาการทางด้านความคิดและสติปัญญา การเล่นในบางครั้งก็ช่วยทำให้เด็กได้มีการฝึกคิดวิเคราะห์ รวมทั้งแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า ทั้งนี้การเล่นยังช่วยในการจดจำ และเป็นการฝึกนิสัยช่างสังเกตไปในตัวให้ลูกอีกด้วย อย่างเช่น การเล่นต่อจิ๊กซอว์ การเล่นต่อบล็อก หรือแม้แต่ เล่นไล่จับ หรือเล่นซ่อนหา เป็นต้น
  • ช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 ให้ทำงานสัมพันธ์กัน ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้แก่ ทางตา หู จมูก ลิ้น และกายนั้น มักจะถูกใช้ไปพร้อมๆ กันในการเล่นเพียงครั้งเดียว จึงทำให้ประสาทสัมผัสของลูกมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
  • เสริมสร้างสมาธิและความสนใจให้แก่เด็ก ตามปกติแล้วเด็กเล็กนั้นจะอยู่ไม่นิ่ง และหากพ่อกับแม่ยอมให้ลูกนั่งอยู่หน้าทีวี ดูการ์ตูนหรือรายการต่างๆ ในโทรทัศน์ แม้จะช่วยลดการยุ่งวุ่นวายของลูกได้บ้าง แต่กลับส่งผลเสียให้ลูกน้อยกลายเป็นเด็กสมาธิสั้น อยู่ไม่นิ่ง เพราะการจ้องสิ่งที่เคลื่อนไหวตลอดเวลาทางหน้าจอมีผลต่อสมาธิโดยตรง ดังนั้นผู้ปกครองควรให้ลูกได้เล่นในกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิ อย่างเช่น การวาดรูปหรือต่อเลโก้จะเหมาะกว่าครับ

แนะนำ 4 การละเล่นแบบไทย

ขี่ม้าส่งเมือง เป็นการละเล่นไทย 4 ภาค ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน แสดงถึงวัฒนธรรมการปกครองในอดีต มีเจ้าเมือง ลูกเมือง เชลย ม้า โดยมีวิธีการเล่นดังนี้

  • แบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ทีม ตั้งคนเป็นเจ้าเมือง คนอื่นๆ ในทีมเป็นลูกเมือง ส่วนใครที่ถูกจับได้ จะกลายเป็นเชลย มีวิธีเล่นดังนี้
  • ผู้เล่นในทีมที่ 1 มากระซิบบอกชื่อผู้เล่นในทีมที่ 2 คนหนึ่งกับเจ้าเมือง จากนั้นทีมที่ 2 ส่งตัวแทนออกมาหาเจ้าเมือง แล้วพูดชื่อผู้เล่นทีมตัวเองออกมา หากตรงกับชื่อที่ทีมที่ 1 บอกไว้เจ้าเมืองจะร้องว่า “โป้ง”
  • ผู้เล่นที่ถูกโป้งต้องตกเป็นเชลย และฝ่ายใดถูกจับเป็นเชลยหมดก่อน ก็ต้องแพ้กลายเป็น “ม้า” ให้ฝ่ายชนะขี่หลังกลับไปส่งที่เมือง

สิ่งที่ได้จากการละเล่นนี้คือ ความสนุกของเกมขี่ม้าส่งเมืองไม่ได้อยู่ที่การผลัดกันเป็นม้าอย่างเดียว ยังมีประโยชน์ให้เด็กๆ ได้ฝึกความพร้อมเพรียง และการประสานงานในกลุ่ม

มอญซ่อนผ้า การละเล่นมอญซ่อนผ้า คาดว่ามีที่มาจากกลุ่มชาวมอญในจังหวัดกาญจนบุรี โดยการนำผ้าซ่อนไว้ข้างหลังผู้เล่นคนอื่น มีวิธีเล่นดังนี้

  • มัดผ้าเป็นปมใหญ่ๆ เรียกว่า “ผ้าตี” หรือ “ผ้าตูม” ใช้จำนวน 1 ใน 3 ของผู้เล่น หรือแล้วแต่จะตกลงกัน
  • จับไม้สั้นไม้ยาว หรือตกลงกันก่อนว่าใครจะเป็น “มอญ” ผู้มีหน้าที่ซ่อนผ้า
  • คนอื่นๆ นั่งล้อมวง ร้องเพลง “มอญซ่อนผ้า ตุ๊กตาอยู่ข้างหลัง ไว้โน่นไว้นี่ ฉันจะตีก้นเธอ” และคนที่เป็นมอญถือผ้าไว้ในมือ เดินวนอยู่นอกวง ระหว่างที่เพื่อนๆ ร้องเพลง คนที่เป็นมอญ วางผ้าไว้ด้านหลังของใครก็ได้
  • ใครรู้ตัวว่ามีผ้าอยู่ด้านหลัง ก็จะวิ่งไล่ตีมอญ 1 รอบ มอญต้องวิ่งหนีกลับมานั่งที่เดิม แต่ถ้ามอญโดนผ้า ก็ต้องกลับไปเป็นผู้วิ่งอีก 1 รอบ

สิ่งที่ได้จากการละเล่นนี้คือ ให้เป็นผู้มีไหวพริบ สังเกตเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัว และเป็นคนคล่องแคล่ว

รีรีข้าวสาร รีรีข้าวสาร เป็นการละเล่นไทยแบบดั้งเดิมที่น่าจดจำ โดยผู้เล่นสองคนประสานมือไว้เหนือศีรษะ คล้องตัวผู้เล่นคนอื่นๆ มีวิธีเล่นดังนี้

  • ตกลงกันว่าใครจะเป็นประตู ใช้ 2 คน คนอื่นๆ ต่อแถวกันรอดประตู
  • ระหว่างเดิน ประตูจะเป็นผู้ร้องเพลง “รีรีข้าวสาร สองทะนานข้าวเปลือก เลือกท้องใบลาน เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน คดข้าวใส่จาน พานเอาคนข้างหลังไว้ให้ดี”
  • ผู้เล่นที่ถูกคล้องตัวไว้ ก็จะถูกลงโทษ หรือถูกให้มาเป็นประตูแทน

สิ่งที่ได้จากการละเล่นนี้คือ เพิ่มความสนุกสนาน เล่นได้ตั้งแต่เด็กเล็กๆ ช่วยให้เพลิดเพลิน จิตใจแจ่มใส รู้จักการทำงานเป็นกลุ่มและมีไหวพริบ คนที่เป็นหัวแถวต้องพยายามเดินให้เร็ว พาเพื่อนให้รอดจากการถูกกักตัวให้ได้

งูกินหาง งูกินหาง เป็นการละเล่นไทยที่เลียนแบบการเคลื่อนไหวและธรรมชาติของงู โดยแบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งแม่งูจะปกป้องลูกงู มีวิธีการเล่นดังนี้

  • จับไม้สั้นไม้ยาว หรือตกลงกันว่า ใครจะเป็นพ่องู กับแม่งู คนที่เหลือต่อแถวแม่งู เป็นลูกงู
  • พ่องูและแม่งูหันหน้าเข้าหากัน ร้องเพลงโต้ตอบกัน เมื่อเพลงจบ แม่งูต้องวิ่งพาลูกงูหนี
  • พ่องูวิ่งไล่จับลูกงูทีละคน

สิ่งที่ได้จากการละเล่นนี้คือ สร้างความสนุกสนาน และฝึกความสามัคคีให้กับเด็กๆ ตั้งแต่วัยเยาว์

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “4 การละเล่นเด็กไทยโบราณที่สนุกและสร้างสรรค์” ที่เราจะได้นำมาฝากทุกๆ ท่าน หวังว่าจะทำให้คิดถึงการละเล่นตอนเด็กๆ ที่เราได้เล่นกันทุกๆ คนครับ

About the Author

You may also like these